วันที่ 12 มิถุนายน 2561 เวลา 9.00 น. คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ระหว่าง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ บริษัท โฮเซอิ เบรค-ไทยแลนด์ จำกัด โดยมีผู้ลงนามและสักขีพยานจาก บริษัท โฮเซอิ เบรค - ไทยแลนด์ จำกัด ดังนี้ คุณเทรุยะ ทาเคอุจิ ประธานบริษัทฯ คุณทาเคชิ โกโตะ รองประธานบริษัทฯ และคุณพนมพร มาศฉมาดล ผู้จัดการทั่วไปส่วนงานบริหาร สำหรับผู้ลงนาม และสักขีพยาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ประกอบด้วย ผศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ผศ. ดร.สราวุธ เวชกิจ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล และ ผศ.ดร.ธนา สาตรา รองหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
- เพื่อเปิดโอกาสให้มหาวิทยาลัย และบริษัท มีการพัฒนาองค์ความรู้ร่วมกันอย่างเป็นทางการผ่านโครงการวิจัยในลักษณะต่าง ๆ ที่เหมาะสม
- เพื่อเป็นช่องทางในการสนับสนุนด้านเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ และอื่น ๆ อันสมควรให้กับนักศึกษาและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยในการผลิตผลงานวิจัย
- เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรทั้งสองฝ่ายได้พัฒนาศักยภาพร่วมกันผ่านการทำงานวิจัย การจัดสัมมนาทางวิชาการ
- เพื่อส่งเสริมและให้โอกาสแก่นักศึกษาที่มีศักยภาพ ในการได้รับประสบการณ์จากการเข้าศึกษาดูงาน ฝึกงาน และทำวิจัยภายในบริษัท
- เพื่อเป็นช่องทางในการให้การสนับสนุนด้านทุนการศึกษาแก่นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์
โดยภายหลังพิธีลงนาม ทางบริษัทโฮเซอิ เบรค-ไทยแลนด์ จำกัด มีการมอบทุนการศึกษา จำนวนเงิน 100,000 บาท เพื่อสนับสนุนการศึกษาให้กับทางคณะวิศวกรรมศาสตร์อีกด้วย
ปัจจุบันบริษัท โฮเซอิ เบรค - ไทยแลนด์ จำกัด และ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลมีความร่วมกันหลายด้านทั้งในส่วนภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล และภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ อาทิ โครงการรับนักศึกษาฝึกงาน โครงการรับสมัครนักศึกษาภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและวิศวกรรมอุตสาหการ เข้าทำงานในตำแหน่ง New Generation Engineer เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทในด้านวิศวกรรมและซ่อมบำรุงพัฒนาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแม่พิมพ์ โดยบริษัทจะทำการส่งนักศึกษาที่รับเข้าทำงานไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือนและเดินทางกลับมาประเทศไทยพร้อมกับตำแหน่ง New Generation Engineer เพื่อทำการวางระบบ Preventive Maintenance นอกจากนั้นจะมีโครงการวิจัยและการฝึกอบรมร่วมกับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งในบางโครงการวิจัยก็ได้เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว